"เอ๊าะ กีรติ" เผยเส้นทางรักกับภรรยาที่ครั้งหนึ่งเจ้าชู่หนักมาก - sbobetstreet

Gclub เว็บไซต์พนันออนไลน์การันตี อันดับ1 ของคนเล่น

Breaking

Post Top Ad

Post Top Ad




วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

"เอ๊าะ กีรติ" เผยเส้นทางรักกับภรรยาที่ครั้งหนึ่งเจ้าชู่หนักมาก

เป็นอีกหนึ่งคนที่แฟนๆ คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี สำหรับ เอ๊าะ กีรติ ที่ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง one31 ถึงเรื่องราวต่างๆ ทั้งเคยคบซ้อน เป็นคนกตัญญูให้แม่เก็บเงิน รวมไปถึง เอ๊าะ กีรติ เป็นคนที่กลัวตายมากๆ อีกต่างหาก

sbobetstreet    ชีวิตคุณพ่อเป็นยังไง?
เอ๊าะ : "ตอนนี้โอเค ชอบมาก เราไม่คิดว่าชีวิตการเป็นพ่อคนมันจะดีขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าดีขนาดนี้ผมจะมีตั้งแต่อายุ 20 ปีเลย ตอนนี้น้องวิน เกือบจะ 3 ขวบแล้ว"
จะมีลูกคนที่สองไหม?
เอ๊าะ : "อยากมี คือไปคุยกับหมอแล้ว แต่คุณหมอบอกว่าเราต้องมีการเตรียมตัวใหม่ เพราะอายุเยอะแล้วอาจจะไม่โชคดีเหมือนคนแรก ตอนลูกคนแรกเราวางแผนล่วงหน้ามา 2 ปี"

มาที่เรื่องนี้กันบ้างเคยคบซ้อนไหม?
เอ๊าะ : "เคยดิ ถามว่ากี่คนอันนี้ไม่รู้ ซ้อนนี่ก็ไม่รู้ว่าซ้อนขนาดไหน แต่ถ้าถามว่าเจ้าชู้ไหมก็ยอมรับ ช่วงวัยรุ่นมันคือเจ้าชู้ แต่ว่าไม่ได้ทำให้ปวดหัวแล้วลากนานไม่มี คือเราทำงานเยอะไม่ค่อยมีเวลา ได้แต่โทรศัพท์คุย แต่สุดท้ายก็หาย เราก็ว่าเขาก็แฮปปี้ เพราะเราคุยกันชัดเจนว่า ถ้าวันนี้ยังมีความสุขก็โอเค แต่ถ้าจะมีใครบอกเราเลยนะ คือท้ายสุดความรักมันไม่ต้องใช้เคพีไอมาวัด มันคือการไปได้ก็ไป ใช่สุดคือแต่ง ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร ท้ายสุดเขามีสิทธิเลือกผมก็มีสิทธิเลือก"

พูดถึงความรักตอนนี้มาเจอภรรยาได้ยังไง?
เอ๊าะ : "เจอตอนทำงาน เราทำอีเว้นท์อยู่แล้วเขาเป็นผู้ช่วยที่ต้องดิวกับเรา แต่ตอนนั้นเขาเหมือนทอม ผมเขาสั้นๆ ตอนดิวกันน่าจะปัญหาเยอะ"
คือเริ่มจากการไม่ชอบขี้หน้ากัน?
เอ๊าะ : "ใช่เขายืนอยู่ข้างเวทีแล้วหน้าเขานิ่งๆ คือประโยคจากแววตาประมาณว่าถ้าเป็นพิธีกรเก่งก็ทำไปดิ ซึ่งเราก็ทำ แล้ววันนั้ฝนตก ผมก็ถามทุกคนว่าไม่ต้องถอยนะ ดนตรีเล่นได้ไหมถ้าเล่นได้เล่นเลย ผมต้องการให้เห็นภาพที่ว่าถึงมีอุปสรรคเราก็เล่นได้ผมไม่สน สภาพผมไม่เหลือคราบหล่อเลย หันมาภรรยาใส่เสื้อกันฝนสีดำๆ แล้วยืนมองเรา เรารู้สึกว่าตกหลุมรักเราแน่ๆ แต่เมียบอกว่าไม่ได้คิดอะไร ตอนขึ้นรถเราก็ขอโทษเขา ตอนคุยโทรศัพท์มันไม่ดี เพราะผมไม่เคยคุยเอง"
แล้วเริ่มจีบกันยังไง?
เอ๊าะ : "ก็คุยเป็นเพื่อนกันเรื่อยๆ ไปหาเอาขนมไปให้ ตอนนั้นก็ชอบแต่ไม่ถึงขั้นรักอะไรมาก ถ้าถามว่าทำไมเขาถึงถูกใจเรา ก็เพราะว่าเขาไม่เคยถามว่าผมอยู่ไหน ทุกวันนี้ก็ไม่เคยถาม แต่ใช้วิธีอยู่ด้วย"
เขาว่ากันว่าคุณแอบเจ้าชู้ จนภรรยาจับได้?
เอ๊าะ : "เรื่องจริงๆ ตอนหลังแต่งงานนี่แหละ สุดท้ายภรรยาบอกว่าพอเถอะ เป็นคนโกหกแล้วคนจับได้อย่าทำอีกเลย คือตอนนั้นเพิ่งเริ่มคุยเลย ปกติผมวางทุกอย่างแต่วันนึงผมคว่ำโทรศัพท์แล้วปิดเสียง มันมีพฤติกรรมนิดเดียวเอง ภรรยาก็บอกว่า เล่ามาผมก็บอกว่า ผมกำลังปิ๊งน้องคนนึง คือถ้าเราดื้อต่อไปโทษอาจจะแรงขึ้น แล้วอีกอย่างมันก็ไปต่อไม่ได้แล้ว"

"แต่อันนี้มันเป็นเรื่องนานแล้ว แค่เรารู้สึกว่ามันเป็นบททดสอบชีวิตคู่หลายๆ อย่าง ภรรยาบอกว่าอะไรก็ได้ แต่อย่าดูแลเป็นเดือนๆ ก็คืออย่ามีเมียน้อย ซึ่งพอเราทำงานมาเรื่อยๆ เรารู้สึกเลยว่าเวลามันมีค่ามาก เรื่องพวกนี้ไม่ควรมีค่ากับชีวิตเรา เพราะฉะนั้นเราต้องยอม บางเรื่องนี่ทิ้งหมดเลย ทุกวันนี้ถามว่าเจ้าชู้มั้ย ข้างในอยากมาก แต่ข้างนอกปฏิบัติไม่ได้ แล้วมันทำให้ดีกับครอบครัวมากเลย"
มันเลยเป็นจุดที่ทำให้พี่กลัวตายมาก?
เอ๊าะ : "มาก แต่ชีวิตเสี่ยงตายมาตลอด คือการกลัวตายเกิดจากเหตุการณ์หลังสุด คือ เราไม่เคยกลัวตาย จนกระทั่งวันนี้เราไม่ควรตาย 1.เพราะเรามีลูก 2.คือคุณแม่อายุเยอะขึ้น ถ้าเราไม่เร่งเครื่องใช้ชีวิตกับเขา หรือลูกกำลังจะ 3 ขวบไปจนถึง 10 ขวบ เรามีเวลาแค่นี้เอง ถ้าสองเวลานี้มารวมกันแล้วเราทำมันให้ดีที่สุด มันเป็นที่ผมไม่ควรตายเลย ถ้าผมไม่ได้ทำให้ช่วงเวลานี้ดีที่สุดโดยเป็นความทรงจำผม ผมจะเสียใจไปจนตายเลย อันนี้แหละเรียกว่าตายทั้งเป็น"
คุณกลัวตายคุณได้วางแผนขั้นตอนชีวิตไว้หมดแล้ว?
เอ๊าะ : "ครบเลยเช่นตอนนี้เรามีหนี้สินประมาณนี้ แล้วมีบ้านแบบนี้ ในกรณีที่ผมพลาดสมมติว่าออกทัวร์แล้วลื่นล้มหัวฟาด โอเคเราจะจัดการเรื่องศพกลับมายังไงประกันทำยังไง ต้องคุยกับใครก่อนอันนี้ก็เตรียมไปให้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้วแล้วมีเงินก้อนนี้เหลืออยู่สำหรับทุกคน"
เรากลัวว่าจะทิ้งภาระให้ทุกคนลำบาก?
เอ๊าะ : "ถูก เราต้องไปอย่างมีคุณค่าไม่ทิ้งภาระอะไรเลยแล้วก็ล่าสุดผมป่วยปวดหลังมันเป็นเรื่องหนักมากคือผมยกลังนมให้ลูกแล้วปวดหลัง แล้วมันปวดเรื้อรังปวดในลักษณะที่ทำงานแล้วรู้สึกวูบวาบจะเป็นไข้ ไปหาหมอหมอก็ทดสอบฉีดยาไปสามเข็มตามจุดต่างๆ ของกล้ามเนื้อแต่มันก็ไม่หาย แล้วเราก็ต้องทำงานต่อรุ่งขึ้นต้องแถลงข่าว"
"พอจบแถลงข่าวไปหาหมอหมอก็ทดสอบอีกรอบหนึ่ง อาต๋อยก็โทรมา ทุกคนก็โทรมา เราก็บอกว่าโอเคแล้วรอด คือทดสอบจนรู้ว่ากล้ามเนื้อที่เจ็บไม่ใช่ในส่วนของหมอนรองกระดูก พอมันไม่ใช่หมอนรองกระดูกเราก็โล่งเลย เพราะตอนนั้นคิดเลยว่าถ้านั่งวิวแชร์ จะปรับรูปแบบการทำงานยังไงงานในวงการนี่ลืมไปเลย อย่างที่สองคืองานในบริษัททั้งหมดจะทำยังไงแล้วจะบริหารเงินในบ้านยังไง"
แต่สุดท้ายคุณก็ทำทุกอย่างให้ลูกภรรยาและคุณแม่?
เอ๊าะ : "มาก ที่สุดถ้าชีวิตไม่ได้ทำให้เขาเห็นในตอนนี้ จะไปทำตอนไหนชาติหน้าไม่รู้เกิดเป็นลูกเขาอีกหรือเปล่า หรือจะได้มีโอกาสดูแลเขาอีกหรือเปล่าแค่นั้นเองเอง"



ขอขอบคุณภาพและข้อมูล จาก sanook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here